ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ช่วยให้เราสามารถปลูกมะเขือเทศที่ให้รสชาติแบบเดียวกับมะเขือเทศจากทัสคานีในอิตาลีได้ ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมปัจจัยทุกอย่างให้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อุณหภูมิ แสงแดด แร่ธาตุในดิน ปัจจุบันนี้เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้โดย Caleb Harper จากมีเดียแล็บของ MIT โดยจะเริ่มจากการหาบริเวณที่มีความใกล้เคียงกับพื้นที่ต้นแบบ
จากนั้นจึงพยายามควบคุมปัจจัยด้านอื่นๆให้มีความใกล้เคียงกันมากที่สุด หนึ่งในบริษัทที่เลือกใช้เทคโนโลยีนี้ก็คือ Ferrero SpA ผู้ผลิตเนยถั่ว Nutella ที่ต้องการปลูกเฮเซลนัทแห่งใหม่แทนแหล่งเดิมคือตุรกี ที่ปัจจุบันราคาผลผลิตสูงขึ้นจนกระทบต่อต้นทุนการผลิตนั่นเอง อีกหนึ่งบริษัทที่มีหลักการคล้ายๆกันคือ Migaki-Ichigo สตรอว์เบอร์รี่ราคาแพงจากญี่ปุ่น ที่ควบคุมปัจจัยทุกอย่างในเรือนกระจก เพื่อให้ผลผลิตมีรสชาติคงที่ ควบคุมปริมาณในการผลิตได้และปัจจุบันยังมีการนำเทคโนโลยีการปลูกในเรือนกระจกนี้ไปทดลองปลูกสตรอว์เบอร์รี่แบรนด์นี้ ในที่อื่นๆของโลกอย่าง อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และ อียิปต์ ด้วยสมาร์ท ฟาร์มมิ่งคือการนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการในฟาร์มหรือในโรงเรือน เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนและเวลาที่จะต้องเสียไปกับการจ้างบุคคลากรในฟาร์มที่เป็นงานที่เพิ่มผลผลิตได้น้อย อาจจะเป็นการนำซอฟต์แวร์มาแจ้งเตือนหรือนำฮาร์ดแวร์เข้ามาร่วมใช้ในฟาร์ม เป็นต้น โดยปกติแล้วการทำสมาร์ทฟาร์มมิ่ง จะต้องพึ่งเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งเวลา และมอนิเตอร์สภาพอากาศหรือสภาพภายในโรงเรือนเพื่อให้เหมาะสมกับการเพิ่มผลผลิตภายใน ซึ่งสิ่งที่หลายๆฟาร์มต้องการ ก็คือการ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ซึ่งระบบสมาร์ท ฟาร์มมิ่งของ LifeSmart จะเข้ามาตอบโจทย์ให้สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเพิ่มระบบที่ซับซ้อนวุ่นวาย สามารถตั้งค่าการทำงานเองได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรื้อระบบฟาร์มใหม่ทั้งหมด เพียงแค่นำอุปกรณ์บางชิ้นไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ในฟาร์มเรียบร้อยแล้ว เท่านั้นเอง